Error Get_Content_View : Column 'ContentDetail' does not belong to table .
Loading

วันศุกร์ที่ ๒๕ มีนาคม ๒๕๖๕ เวลา ๐๙.๓๐ น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ณ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้อันเนื่องมาจากพระราชดำริ

  • ประเภทสื่อ : สื่อภาพ
  • ประเภทโครงการ : โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
  • ที่มาของสื่อ : สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.)
  • แบ่งปัน :

     วันศุกร์ที่ ๒๕ มีนาคม ๒๕๖๕ เวลา ๐๙.๓๐ น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ณ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลป่าเมี่ยง อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่

    ในการนี้ นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี นายลลิต ถนอมสิงห์ เลขาธิการ กปร. นายปวัตร์ นวะมะรัตน รองเลขาธิการ กปร. นายไพรัตน์ ทับประเสริฐ ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้อันเนื่องมาจากพระราชดำริ พร้อมด้วยผู้บริหารและเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่ร่วมสนองพระราชดำริ เฝ้าฯ รับเสด็จ  

    สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ ติดตามความก้าวหน้าโครงการศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ฯ

    จากนั้น เสด็จฯ ไปยังพลับพลาทรงงาน การนี้นายลลิต ถนอมสิงห์ กราบบังคมทูลถวายรายงานภาพรวมของศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่น้อมนำแนวพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เป็นแนวทางในการพัฒนา “ต้นทางเป็นป่าไม้ ปลายทางเป็นประมง ระหว่างทางเป็นเกษตรกรรม” เนื่องจากพื้นที่แห่งนี้ประสบปัญหาพื้นที่ป่าเสื่อมโทรม ดินแห้งแล้ง ทำการเกษตรไม่ได้ผล จากแนวพระราชดำรินำไปสู่การพัฒนาน้ำ ป่าไม้ ดิน และเกษตรกรรม ปัจจุบันผืนป่ากว่า 8,500 ไร่ มีความอุดมสมบูรณ์ ต่อจากนั้น นายไพรัตน์ ทับประเสริฐ ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ฯ กราบบังคมทูลรายงานการสนองพระราชดำริตลอดระยะเวลาดำเนินการ ๓๙ ปี มีผลสัมฤทธิ์เป็นรูปธรรมชัดเจน ทั้งด้านการฟื้นฟูป่าไม้ แหล่งน้ำ การพัฒนาอาชีพเกษตรกรรมที่สร้างความมั่นให้แก่ราษฎรอย่างยั่งยืน

    ต่อมา เสด็จฯ ไปยังหออาคารเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทอดพระเนตรประวัติศาสตร์ของการก่อตั้งศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยอ่องไคร้ฯ ซึ่งภายในอาคารจัดแสดงภาพพระราชกรณียกิจต่าง ๆ จากนั้นประทับรถรางพระที่นั่งไปทอดพระเนตรนิทรรศการงานด้านป่าไม้ และทรงรับฟังรายงานผลการพัฒนาและการเปลี่ยนแปลงด้านป่าไม้จากอดีตถึงปัจจุบัน ทอดพระเนตรผลิตภัณฑ์จากศูนย์ฯ และศูนย์เรียนรู้ต่าง ๆ ที่เกษตรกรและชาวบ้านหมู่บ้านรอบศูนย์นำความรู้จากศูนย์ฯ ไปปฏิบัติจนก่อให้เกิดรายได้ในการยังชีพ และต่อยอดจัดตั้งเป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชน การนี้ทรงรับฟังรายงานผลการดำเนินงานจากการขยายผลของผลของศูนย์ฯ สู่ชุมชน  

    จากนั้นเสด็จฯ ณ ศาลาอเนกประสงค์ ทรงลงพระนามาภิไธยในสมุดที่ระลึก และพระราชทานพระราโชวาท แก่ข้าราชการที่ปฏิบัติงานภายในศูนย์ฯ โอกาสนี้ ทรงปลูกต้นอินทนิลน้ำ และทรงปล่อยปลา ๙ ชนิด อาทิ ปลาตะเพียนขาว ปลาตะเพียนทอง ปลากาดำ ปลาสร้อยขาว และปลาสร้อยนกเขา

    จากการดำเนินงานของศูนย์ศึกษาการห้วยฮ่องไคร้ฯ ตามแนวพระราชดำริ โดยทำหน้าที่เสมือน พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติที่มีชีวิต เพื่อให้ประชาชนที่สนใจเข้ามาศึกษา เรียนรู้ การประกอบอาชีพเกษตรกรรมที่เหมาะสมกับลักษณะภูมิศาสตร์และบริบทของตัวเอง ภายในศูนย์ฯ จัดทำแปลงสาธิต ตัวอย่างความสำเร็จไว้จำนวน ๕๑ จุด นอกจากนี้ยังนำผลสัมฤทธิ์จากศึกษา ทดลอง วิจัย มาจัดทำหลักสูตรอบรมจำนวน ๓๔ หลักสูตร ซึ่งศูนย์ฯ ได้นำองค์ความรู้ทั้งในด้านวิชาการและการปฏิบัติ รวมถึงการสนับสนุนปัจจัยการผลิตทั้งพันธุ์พืช พันธุ์สัตว์ และวัสดุอุปกรณ์ ให้แก่เกษตรกร ใช้เป็นต้นทุนในการประกอบอาชีพเพื่อให้พึ่งพาตนเองได้ตามแนวพระราชดำริปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงให้เกิดความอย่างยั่งยืนต่อไป  

     นอกจากนี้ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ ศูนย์ฯ ได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการอบรมเป็นแบบออนไลน์ ผ่านช่องทาง Youtube จัดถ่ายทอดสด (Live) อบรมออนไลน์ทาง zoom และใช้รถเคลื่อนที่ (Mobile Unit) นำองค์ความรู้และปัจจัยการผลิตเข้าสู่ชุมชน นอกจากนี้ ศูนย์ฯ ได้ทำการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การแปรรูปผลิตภัณฑ์ และออกแบบบรรจุภัณฑ์ เพื่อให้สินค้ามีเอกลักษณ์ มีมาตรฐานรับรองการปลอดสารพิษ เพื่อสร้างความเชื่อถือให้แก่ผลิตภัณฑ์ศูนย์ฯ และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้า โดยเปิดช่องทางการจำหน่ายและติดต่อทาง line official เชื่อมกับ Website ขายสินค้าศูนย์ฯ และจำหน่ายสินค้าออนไลน์อีกด้วย  

 

 


Cr. สำนักงาน กปร.

ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง